องค์การเภสัชกรรม

สรรสร้างนวัตกรรมด้วยความใส่ใจเพื่อชีวิต

องค์การเภสัชกรรม

สรรสร้างนวัตกรรมด้วยความใส่ใจเพื่อชีวิต

ประกาศความเป็นส่วนตัวในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์การเภสัชกรรม (Personal Data Protection Privacy Notice)

25 มกราคม 2567
ขนาดตัวอักษร

                 เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งให้ความคุ้มครองแก่ข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันการละเมิดสิทธิของเจ้าของข้อมูล องค์การเภสัชกรรมจึงจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์การเภสัชกรรม (Personal Data Protection Privacy Notice) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่องค์การฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. 2509 จึงให้ยกเลิกประกาศองค์การเภสัชกรรม เรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์การเภสัชกรรม ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 และขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ นี้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

2. บทนิยาม

"กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

"องค์การฯ" หมายความว่า องค์การเภสัชกรรม

“ประกาศ” หมายความว่า ประกาศความเป็นส่วนตัวในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์การเภสัชกรรม

"บุคคล" หมายความว่า บุคคลธรรมดา

"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้
ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

"ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดให้เป็นข้อมูล
ส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนมีความอ่อนไหวตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

"เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า บุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

"การประมวลผล" หมายความว่า เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยน
หรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย

"ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

"นโยบายการใช้คุกกี้" หมายความว่า นโยบายการใช้คุกกี้ขององค์การเภสัชกรรม

3. ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า "ท่าน") ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ได้แก่

(1) บุคคลธรรมดา หมายถึง ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา ที่เป็นบุคคลธรรมดา ตัวแทนสื่อมวลชน
สื่อสิ่งพิมพ์ ตัวแทนชุมชน ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา หรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่องค์การฯ
มีความสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับองค์การฯ ไม่ว่าจะในทางใด

(2) บุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลที่ติดต่อกับองค์การฯ หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลที่ติดต่อกับองค์การฯ และบุคคลธรรมดาอื่นใดที่นิติบุคคลเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมายังองค์การฯ เพื่อดำเนินธุรกรรมกับองค์การฯ

(3) ผู้ปฏิบัติงานขององค์การฯ หมายถึง บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับองค์การฯและได้ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรจากองค์การฯ เพื่อตอบแทนการทำงาน ได้แก่กรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงาน ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน ลูกจ้าง บุคลากร ผู้ฝึกงาน รวมถึง ที่ปรึกษา
หรือผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่รวมถึงผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการ
ซึ่งเป็นคู่ค้าขององค์การฯ

4. การดำเนินการขององค์การฯ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

องค์การฯ เป็น "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศฯ ฉบับนี้องค์การฯ จึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อการประมวลผลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
ส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องจะถูกใช้งานโดยบุคลากรขององค์การฯ ในส่วนงานต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวในการทำงานขององค์การฯ

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของแต่ละกิจกรรมในการดำเนินการขององค์การฯ กับประกาศฯ ฉบับนี้ ให้ถือตามประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของกิจกรรมนั้น ๆ

4.1 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์การฯ เก็บรวบรวม

(1) ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

ก. ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ ภาพถ่าย
เทปบันทึกเสียงการสนทนา ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และเอกสารทางกฎหมายอื่น ๆ

ข. ข้อมูลการศึกษา

ค. ข้อมูลการทำงาน

ง. ข้อมูลการติดต่อสื่อสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านการตลาด

จ. ข้อมูลที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ท่านและการทำธุรกรรมต่าง ๆ

ฉ. ข้อมูลทางเทคนิค ข้อมูลการใช้งาน และข้อมูลการเข้าถึงระบบสารสนเทศทุกระบบ

ช. ข้อมูลบัญชีและการเงินขององค์การฯ

(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่

ก. ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวมิติ ข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า)

ข. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำกิจกรรม ธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา

ค. ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและ/หรือความพิการ

ง. ข้อมูลประวัติอาชญากรรม

ทั้งนี้ องค์การฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เฉพาะกรณีที่องค์การฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น

(3) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่องค์การฯ ขอให้ท่านโปรดแจ้งประกาศฯ นี้
แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบประกาศฯ นี้ และขอความยินยอมหากจำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายอื่น
ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามมายังองค์การฯ ด้วย

4.2 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

องค์การฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับองค์การฯ โดยตรง

องค์การฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยองค์การฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

ก. จากความสมัครใจของท่าน ในการติดต่อกับองค์การฯ

ข. ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า หรือ สมัครใช้บริการกับองค์การฯ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับองค์การฯ หรือขอรับบริการผ่านช่องทางต่าง ๆ

ค. ขั้นตอนการสมัครงานและการสรรหา ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและผู้ที่เกี่ยวข้อง

ง. การให้ข้อมูลของพนักงานตามประกาศเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของฝ่ายบริหารทุนมนุษย์
ต่อผู้ปฏิบัติงานองค์การเภสัชกรรม

จ. การติดต่อเพื่อจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์และกิจกรรมทางการตลาด

ฉ. ขั้นตอนการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ช. ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุขององค์การฯ

ซ. ขั้นตอนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การฯ

(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์การฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ

องค์การฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น
เก็บจากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ขององค์การฯ ผ่านการใช้คุกกี้ (
Cookies) Google Analytics Hotjar หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ
ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้

(3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์การฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก

องค์การฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม ในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ก. กรณีที่องค์การฯ ขายยา วัคซีน เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นให้กับเครือข่ายโรงพยาบาลราชวิถี (โครงการพิเศษ) สำนักงานประกันสังคม หรือโครงการอื่นในทำนองเดียวกัน และจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม กรมควบคุมโรค และหน่วยบริการสาธารณสุข เป็นต้น

ข. กรณีการตีพิมพ์และเผยแพร่บทความทางวิชาการ องค์การฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
ของท่านจากองค์กรที่รับตีพิมพ์และเผยแพร่บทความวิชาการ

ค. กรณีมีคำฟ้อง คำสั่งศาล หรือหมายจากศาล มาถึงองค์การฯ องค์การฯ อาจได้รับข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านจาก ศาล หรือสำนักงานอัยการสูงสุด

ง. กรณีมีหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสถานีตำรวจ มาถึงองค์การฯ องค์การฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสถานีตำรวจ

จ. กรณีมีการโอนสิทธิเรียกร้อง ผู้โอนสิทธิเรียกร้อง หรือผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง องค์การฯ
อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้โอนสิทธิเรียกร้อง หรือผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง

ฉ. กรณีมีการมอบอำนาจ องค์การฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้รับมอบอำนาจ

ช. กรณีมีข้อร้องเรียนส่งมายังองค์การฯ

ซ. กรณีการยื่นข้อเสนอและเสนอราคาผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
(e-GP) กรมบัญชีกลาง

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน องค์การฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

การจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวซึ่งองค์การฯ เก็บไว้
ก่อนพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ ในกรณีที่องค์การฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ องค์การฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่องค์การฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังองค์การฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 14 ของประกาศฯ ฉบับนี้

5. วัตถุประสงค์ในการ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล

องค์การฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว โดยได้รับความยินยอม เท่าที่จำเป็น และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ดังต่อไปนี้ เว้นแต่ในกรณี
ที่ไม่ต้องได้รับความยินยอม

5.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอมของท่าน

(1) ข้อมูลด้านการติดต่อสื่อสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านการตลาด

(2) การวิจัย จัดทำข้อมูลทางสถิติ และการวิเคราะห์ข้อมูล

(3) การสมัครงานและการจ้างงาน

(4) การบริหารจัดการและพัฒนาทุนมนุษย์

(5) การดำเนินการด้านบัญชีและการเงิน

(6) การตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สิน
ขององค์การฯ

(7) การดำเนินการด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ

(8) การดำเนินงานตามภารกิจขององค์การฯ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว องค์การฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้

ก. ข้อมูลชีวภาพ เพื่อการพิสูจน์ตัวตน และเพื่อการยืนยันตัวบุคคล รวมถึงการให้บริการแก่ท่าน

ข. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตนหรือเอกสารประกอบการทำกิจกรรม ธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน โดยองค์การฯ
จะดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน โดยองค์การฯ
อาจดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบ หรือองค์การฯ อาจขอให้ท่าน
เป็นผู้ดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านด้วยตนเอง

ค. ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและ/หรือความพิการ เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสรรหาผู้ปฏิบัติงานและการรักษาพยาบาล

ง. ข้อมูลประวัติอาชญากรรม เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสรรหาผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนที่จะมีการถอนความยินยอม

5.2 วัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ข้อบังคับหรือระเบียบขององค์การฯ และฐานทางกฎหมายอื่น ๆ สำหรับเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

องค์การฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างองค์การฯ กับท่าน เช่น ท่านใช้บริการใดขององค์การฯ เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

(1) เพื่อการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน

(2) วัตถุประสงค์ทางการตลาด

(2.1) เพื่อดำเนินการตามคำสั่งซื้อของลูกค้า จัดหาผลิตภัณฑ์และบริการ

(2.2) เพื่อส่งเสริมการขาย และการสื่อสาร

(2.3) เพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการ

(2.4) เพื่อบริหารการขาย บริหารคลังยา การจัดส่งยา วัคซีน เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์
ที่จำเป็น และการจัดทำรายงานการรับ-จ่ายของหน่วยบริการในโครงการต่าง ๆ ซึ่งอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(3) วัตถุประสงค์ด้านการบริหารทุนมนุษย์

(3.1) เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานผู้สมัครงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานในการรับสมัครงาน หรือในการดำเนินการภายหลังการรับสมัครงานการบริหารจัดการด้านการบริหารทุนมนุษย์ขององค์การฯ การจัดสรรสวัสดิการและผลประโยชน์ของผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงาน

(3.2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายขององค์การฯ ในการบริหารจัดการด้านทุนมนุษย์
ขององค์การฯ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องขององค์การฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย

(4) เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินขององค์การฯ หรือการใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินขององค์การฯ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินขององค์การฯ
สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น การดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นขององค์การฯ และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน
หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น

(5) เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุขององค์การฯ

(6) เพื่อจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงบริหารจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ
และแพลตฟอร์ม และเพื่อใช้ในระบบเครือข่ายสารสนเทศขององค์การฯ ทุกเครือข่าย ระบบขายปลีก ระบบ intranet ภายในองค์การฯ ระบบบริหารการขนส่ง และเพื่อจัดทำลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital signature)

(7) เพื่อใช้ในการรับการบริการและการดำเนินการเรื่องสอบเทียบและทดสอบ

(8) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนการ หรือคำสั่งรัฐบาล

(9) เพื่อปกป้องประโยชน์อันชอบธรรมขององค์การฯ

(10) เพื่อบริหารความเสี่ยง ตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจต่อองค์การฯ

(11) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

(12) เพื่อการดำเนินการตามหน้าที่อื่น ๆ ขององค์การฯ สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างองค์การฯ กับท่าน เช่น ท่านในฐานะคณะกรรมการ ผู้บริหาร หรือที่ปรึกษา
ขององค์การฯ ที่องค์การฯ ดำเนินการแต่งตั้ง

(13) เพื่อให้การใช้สินค้าและบริการต่าง ๆ ขององค์การฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับองค์การฯ ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติม
ในอนาคต

ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับองค์การฯ อาจส่งผลกระทบต่อท่าน เช่น องค์การฯ
ไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ ท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาและท่านอาจได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่องค์การฯ
หรือท่านต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง

6. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

องค์การฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามโดยได้รับความยินยอมและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ รวมทั้งเท่าที่จำเป็น ซึ่งการเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผย และ /หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถดูประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคล
ที่สามเหล่านี้เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่บุคคลที่สามเหล่านี้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากท่านคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยบุคคลที่สามข้างต้นมีรายละเอียดดังนี้

6.1 ผู้ให้บริการขององค์การฯ

องค์การฯ อาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน ผู้ให้บริการ หรือผู้รับจ้างอื่นจากภายนอก เพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนองค์การฯ หรือช่วยในการดำเนินธุรกิจและจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย รวมถึงดำเนินการใด ๆ เพื่อประโยชน์แก่ท่าน องค์การฯ
อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ ผู้ให้บริการขององค์การฯ เช่น

(1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ชอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไชต์ สื่อดิจิทัล ผู้ให้บริการจัดหา
หรือสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

(2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง

(3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน

(4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัย

(5) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์

(6) บริษัทที่ให้บริการด้านการสำรวจ

(7) ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย และ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ
ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจขององค์การฯ

(8) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า

(9) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร

(10) บริษัทที่ให้บริการด้านแคมเปญ งานกิจกรรม การจัดงานด้านการตลาด และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์

(11) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร

(12) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอก

(13) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์

(14) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์

(15) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บและ/หรือทำลายเอกสาร

(16) ผู้ให้บริการติดตามทวงถามหนี้

(17) นิติบุคคลที่ติดต่อกับองค์การฯ ในการดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าขององค์การ

ในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไร
ก็ตาม องค์การฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้นและองค์การฯ จะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ องค์การฯ จะดำเนินการให้แน่ใจว่า
ผู้ให้บริการที่องค์การฯ ทำงานด้วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

6.2 บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด

ในบางกรณี องค์การฯ อาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย

6.3 การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ

องค์การฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การดำเนินการ
ที่มีกฎหมายกำหนดให้ องค์การฯ ต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาหรือมติคณะรัฐมนตรี การประชาสัมพันธ์ขององค์การฯ เป็นต้น

7. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว องค์การฯ จะดำเนินการดังนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7.1 เก็บรวบรวมข้อมูลในรูปแบบไฟล์ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ (Soft Copy) คอมพิวเตอร์
แม่ข่าย (File Server) ข้อมูลบนระบบคลาวด์ (Cloud Storage) และ/หรือ ในรูปแบบเอกสารกระดาษ
(Hard Copy) จัดเก็บโดยรวบรวมเป็นรูปเล่มหรือแฟ้ม และเก็บในตู้เอกสาร ที่ตั้งอยู่ในที่ที่ปลอดภัย

7.2 ใช้ในการตรวจสอบ ยืนยันตัวตนและตรวจสอบสิทธิในการเข้าใช้แต่ละบริการ เป็นหลักฐานในการเรียกชำระหนี้ ดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้าง เพื่อติดต่อประสานงานและให้บริการส่งเสริมด้านการตลาดและการขาย สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล ทำสัญญา คัดเลือกบุคคลากร เพื่อเขียนบทความทางวิชาการ กิจกรรมด้านลูกค้าสัมพันธ์ ทำบัญชีและรายงานตามกฎหมาย เพื่อพัฒนาสินค้าและงานบริการ เพื่อการบริหารและการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องในการให้บริการ เพื่อกระบวนการทางบัญชีในการรับ จ่ายเงิน

7.3 เปิดเผยโดยการส่งข้อมูลในรูปแบบเอกสารกระดาษ ข้อความ หรือ อิเล็กทรอนิกส์ไฟล์ ทั้งนี้ บุคคล หรือ หน่วยงาน ที่องค์การฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระบุไว้ในข้อ 6 ของประกาศฯ นี้

ทั้งนี้ การเก็บรวบรวม การใช้ และ การเปิดเผย เป็นไปตามประกาศความเป็นส่วนตัวของแต่ละหน่วยงานขององค์การฯ

7.4 องค์การฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
และบุคคลไร้ความสามารถเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลเท่านั้น ในกรณีที่องค์การฯทราบว่าองค์การฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่เป็นผู้เยาว์โดยไม่มีความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่มีความยินยอม
ของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี โดยไม่ได้ตั้งใจ องค์การฯ จะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที หรือจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือ
จากความยินยอม หรือตามที่กฎหมายอนุญาต

อย่างไรก็ตาม โปรดอ่านประกาศฯ ฉบับนี้พร้อมกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการที่ท่านใช้
ซึ่งอาจมีการกำหนดแยกต่างหากเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่าน

8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

องค์การฯ อาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น บริษัทคู่ค้าขององค์การฯ ในต่างประเทศ หรือ คู่สัญญาที่เป็นนิติบุคคลต่างประเทศ หรือผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเชิร์ฟเวอร์ที่ตั้ ตั้งอยู่นอกประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งอาจมีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย องค์การฯ
จะดำเนินการให้แน่ใจว่ามีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนในระดับที่เพียงพอ หรือดำเนินการ
ให้แน่ใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตัวอย่างเช่น องค์การฯ อาจจะต้องได้รับคำยืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย

9. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้

(1) ลักษณะการเก็บ :

ก. จัดเก็บเป็นเอกสารกระดาษ (Hard Copy) ในแฟ้มเอกสาร

ข. จัดเก็บเป็นไฟล์เอกสาร (Soft Copy) ในระบบคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและสำรองข้อมูล

(2) สถานที่จัดเก็บ :

ก. กรณีจัดเก็บเป็นเอกสารกระดาษ (Hard Copy): เก็บไว้ที่ห้อง ตู้ที่มีอุปกรณ์นิรภัย สถานที่ตั้งองค์การเภสัชกรรม หรือ การจ้างบริษัทภายนอกในการจัดเก็บซึ่งมีสัญญาการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูล
ที่สอดคล้องตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ และ Data Governance ขององค์การฯ

ข. กรณีจัดเก็บเป็นไฟล์เอกสาร (Soft Copy: เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือบนระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการ ในพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน (Share Dive) หรือในเชิร์ฟเวอร์ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Server) ซึ่งมีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลที่สอดคล้องตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษา
ความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ และ Data Governance ขององค์การฯ

(3) ระยะเวลาการเก็บรักษาและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล :

องค์การฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว หรือเมื่อองค์การฯ ไม่มีสิทธิ หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว องค์การฯ จะลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไปภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวด้วยวิธีการดังนี้

ก. กรณีจัดเก็บเป็นเอกสารกระดาษ (Hard Copy): จะดำเนินการส่งทำลายตามระเบียบ
ขององค์การฯ

ข. กรณีจัดเก็บเป็นไฟล์เอกสาร (Soft Copy): จะดำเนินการลบออกจากระบบคอมพิวเตอร์ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการทำลายเอกสาร และบันทึกวันเวลา และรายละเอียดข้อมูลที่ลบออก

ทั้งนี้ เป็นไปตามตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการ
หรือกฎหมายได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล

อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน องค์การฯ ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

องค์การฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหายเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

11. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก

บริการขององค์การฯ อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์
หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศความเป็นส่วนตัวในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่าง
จากประกาศฯ นี้องค์การฯ ขอแนะนำให้ท่านศึกษาประกาศความเป็นส่วนตัวในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้องค์การฯ ไม่มีความเกี่ยวข้อง
และไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม

12. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังองค์การฯ ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 14
ของประกาศฯ ฉบับนี้

12.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม และขอให้องค์การฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่านได้ ทั้งนี้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

12.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้
ทั้งนี้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

12.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

12.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านอาจขอให้องค์การฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

12.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้องค์การฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมาย
ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

12.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น
ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

12.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่องค์การฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับองค์การฯ ได้

12.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน

หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติขององค์การฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่น โปรดติดต่อองค์การฯ ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 14 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าองค์การฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่น
ข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ องค์การฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

13. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

องค์การฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยองค์การฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม เช่น เผยแพร่บน https://www.gpo.or.th/view/privacyPolicy ทั้งนี้ องค์การฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

14. การติดต่อองค์การเภสัชกรรม

                     หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมขององค์การฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านหรือท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิตามข้อ 12 ท่านสามารถติดต่อ องค์การฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์การฯ ได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยองค์การฯ ยินดีที่จะช่วยเหลือท่านในการให้ข้อมูล และข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อองค์การเภสัชกรรม


องค์การเภสัชกรรม
เลขที่ 75/1 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 02-203-8000    โทรสาร 02-354-8780

รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
ช่องทางการติดต่อ: gpo_pdpa@gpo.or.th    Call Center : 1648
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป